สตรอว์เบอรี่ STRAWBERRY

 
 สตรอว์เบอรี่เป็นผลไม้ อุดมไปด้วย วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่สำคัญ หากรับประทานสตรอเบอร์รี่เป็นประจำ จะทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ทำให้เจริญอาหาร ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและนอกจากนี้ยังช่วยให้การดูดซึมอาหารของร่างกายของเราให้ดียิ่งขึ้น

 
ประโยชน์ของสตรอเบอร์รี่
  1. ดูแลสายตา
  2. ป้องกันโรคข้ออักเสบและโรคเกาต์
  3. ป้องกันโรคมะเร็ง
  4. ส่งเสริมการทำงานของสมอง
  5. ลดความดันโลหิต
  6. ป้องกันโรคหัวใจ
  7. ป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน
  8. ป้องกันโรคภูมิแพ้
 แนะนำ
         รสชาติเปรี้ยวอมหวานของสตรอเบอร์รี่นั้น หากนำมากินคู่กับของหวานอย่างไอศกรีมหรือเค้กสักชิ้นก็กลมกล่อมเข้ากันดี หรือแม้แต่จิ้มกินกับพริกกะเกลือก็เพลิดเพลินได้เช่นเดียวกัน และในความอร่อยชุ่มลิ้นนั้นก็มีคุณค่าและประโยชน์อยู่ด้วย อย่างแรกเลยก็คือสตรอเบอร์รี่ถือเป็นผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูง รวมไปถึงวิตามินเอ ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และแคลเซียม สำหรับวิตามินซีและวิตามินเอนั้นเป็นสารสำคัญที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ สตรอเบอร์รี่จึงเป็นผลไม้ที่มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่าผลไม้อื่นๆ อย่างส้ม องุ่นแดง กีวี กล้วยหอม และมะเขือเทศ

องุ่น GRAPE


ประโยชน์และคุณค่าทางอาหารที่มีผลต่อสุขภาพ

      องุ่น เป็นผลไม้ที่มีสารอาหารที่สำคัญคือน้ำตาล และสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์ น้ำตาลกลูโคส น้ำตาลซูโคส วิตามินซี เหล็ก และ แคลเซี่ยม ที่ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง องุ่นยังสามารถนำไปทำเป็นเหล้าองุ่น ใช้เป็นยา การรับประทานองุ่นเป็นประจำ จะมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง คนที่ร่างกายผอมแห้งแรงน้อย แก่ก่อนวัย ไม่มีเรี่ยวแรง ถ้ารับประทานองุ่นเป็นประจำ จะช่วยเสริมทำให้ร่างกายและสุขภาพค่อยๆแข็งแรงขึ้นได้

สรรพคุณในการรักษาโรค
          เนื้อองุ่นใช้สำหรับบำรุงเลือดและพลัง แก้ไอ แก้อาการปวดข้อ รักษาอาการเหงื่อออกมากผิดปกติ ขับปัสสาวะ รากต้นองุ่นใช้สำหรับแก้อาการปวดข้อ ขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ เถาและใบใช้สำหรับขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ แก้ตาแดง แก้ฝี
วิธีการล้างองุ่นให้สะอาดเอี่ยม
  1. เด็ดผลองุ่นออกจากพวงเพื่อที่จะได้ล้างได้ง่าย
  2. หลังจากเด็ดผลองุ่นเสร็จแล้วนำใส่ภาชนะ
  3. ใส่น้ำพอสมควร
  4. บีบยาสีฟันใส่มือแล้วขยี้ให้ทั่วมือจากนั้นนำไปล้างผลองุ่น
  5. ล้างด้วยน้ำเปล่า
  6. เสร็จขั้นตอนการล้างองุ่นแล้ว
 ส่งท้ายบทความ
          นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ในสก๊อตแลนด์ ผู้ดำเนินการวิจัย เชื่อว่า น้ำองุ่นและน้ำผลไม้ที่มีสีม่วงเข้ม  เป็นน้ำผลไม้ที่ให้ประโยชน์ ได้มากที่สุด ศาสตราจารย์ Alan Crozier ผู้เชี่ยวชาญทางด้านชีวเคมีของพืช และโภชนาการสำหรับมนุษย์ ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมวิจัย บอกว่า น้ำผลไม้ที่มีสีม่วงเข้ม เช่น น้ำองุ่น น้ำแครนแบรี่ และน้ำทับทิม ทำงานได้ดีกว่าน้ำผลไม้ชนิดอื่นๆ ในการขับอนุมูลอิสระออกจากร่างกาย อนุมูลอิสระทำลายแซลล์ในร่างกายและเปิดโอกาสให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บขึ้นได้
          ศาสตราจารย์ Alan Crozier ยืนยันว่า วัดสาร anti-oxidant ในน้ำ องุ่นสีม่วงได้มากกว่าน้ำผลไม้ชนิดอื่นๆจริง ในขณะที่ผลการวิจัยยังระบุไว้ด้วยว่าน้ำผลไม้อื่นๆ อย่างเช่น น้ำแครนแบรี่ และน้ำทับทิม ก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน  นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ผู้นี้บอกว่า หรือจะดื่มไวน์แดง อย่าง Beaujolais ซึ่งวัดจำนวนและระดับของ polyphenols ได้มากเท่าๆกันก็ได้  ที่สำคัญก็คือ ต้องดื่มน้ำผลไม้สัปดาห์ละสามแก้วเป็นอย่างน้อย  ส่วนจะดื่มอะไรนั้น มีทางเลือกหลายอย่างที่น่าสนใจ แทนที่จะดื่มน้ำผลไม้ชนิดเดียวซ้ำซากอยู่ทุกวัน

แอปเปิ้ล APPLE

แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ยอดนิยมชนิดหนึ่งของโลก ผลมีเปลือกทั้งสีแดง สีชมพู สีเขียว และสีเหลืองแบ่งตามสายพันธุ์ต่างๆ
แอปเปิ้ลนั้นมีสารที่สำคัญ คือ เบตาแคโรทีน วิตามินซี และเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้

ประโยชน์ของแอปเปิ้ล แบ่งตามสีได้ดังนี้
  1. แอปเปิ้ลแดง มีสารแอนตี้ออกซิแดนต์มากที่สุด และยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิวด้วย
  2. แอปเปิ้ลสีชมพู มีสารฟิโนลิกมากที่สุดในบรรดาแอปเปิ้ลด้วยกัน ซึ่งสารนี้ช่วยยับยั้งการเกิดชะลอความแก่และฝ้า นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
  3. แอปเปิ้ลสีเขียว มีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี เพราะการกินแอปเปิ้ลสีเขียวนอกจากจะได้รับน้ำตาลน้อยแล้ว ยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี แอปเปิ้ลสีเขียวเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก
  4. แอปเปิ้ลสีเหลือง มีประโยชน์ต่างจากสีอื่นๆ คือ มีสารเควอร์ซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง และต้อกระจก
การลดความอ้วนด้วยแอปเปิ้ล
หากหิวจนตาลาย แต่ยังไม่ถึงเวลาอาหาร แอปเปิ้ลสักลูกช่วยลดความหิวได้ดีเป็นพิเศษ ทั้งนี้เป็นเพราะแอปเปิ้ลมีแป้งและน้ำตาลในรูปของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวถึง 75% ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำตาลพิเศษชนิดนี้ได้รวดเร็ว และนำไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลาไม่เกินสิบนาที ดังนั้น ความอยากอาหารจึงลดลง ทำให้คุณไม่รู้สึกหงุดหงิด อ่อนเพลียระหว่างก่อนเวลารับประทานอาหารมื้อใหญ่ๆ
 
สำหรับคุณที่ต้องไปงานเลี้ยงบ่อยๆ ลองใช้เทคนิคลดน้ำหนักง่ายๆ วิธีนี้ก็ย่อมได้ คือ เมื่อเริ่มตักอาหาร ให้ตักผลไม้ก่อน เลือกแอปเปิ้ล ส้ม หรือผลไม้ที่มีกากเยอะๆ รับประทานรองท้องแทนอาหารจำพวกออเดิร์ฟ ในเวลาไม่เกิน 10 นาที น้ำตาลผลไม้โมเลกุลเดี่ยวจะถูกดูดซึม ทำให้ความอยากอาหารของคุณลดลง คุณจึงรับประทานของคาวได้น้อยลง แต่รู้สึกอิ่มโดยไม่ทุรนทุราย แอปเปิ้ลช่วยทำให้คุณไม่รู้สึกอยากอาหาร แต่ช่วยให้อิ่มเร็วได้ดีกว่าอาหารจำพวกแป้งหรือน้ำตาอื่นๆ

สมูธตี้แตงโม

          สมูธตี้ จัดเป็นเครื่องดื่มสุขภาพที่นิยมกันมาก มีรสชาติแตกต่างจากน้ำผลไม้ปั่นธรรมดาตรงที่มีความเข้มข้นมากกว่า
          ผลไม้และส่วนผสมต่างๆของสมูธตี้ทุกชนิด จะต้องแช่ให้เย็น ก่อนนำมาปั่น จึงจะได้สมูธตี้ที่น่ารับประทาน เพราะจะทำให้สมูธตี้นั้นละเอียดเนียนนุ่ม เมื่อสัมผัสหรือรับประทานนั้นสัมผัสไปสู่ลำคอด้วยความอร่อย
สมูธตี้แตงโม


ส่วนผสม ในที่นี้สำหรับ 2 แก้ว(และสำหรับแก้วเดียวก็คิดเอานะ)
 มีผลไม้ด้วยกัน 3 ชนิด คือ
-แตงโมหั่นเป็นชิ้นเล็ก1 ถ้วย
-สตรอเบอร์รี่ 5 ผล
-ส้มเขียวหวาน 1 ผล
นอกจากผลไม้แล้วส่วนผสมอื่นๆคือ
-เกลือป่นเล็กน้อย
-น้ำแข็งทุบ ครึ่ง ถ้วย
*หมายเหตุส่วนผสมทุกชนิดต้องแช่เย็น

วิธีทำ
1.ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงในเครื่องปั่น
2.ปั่นให้เข้ากันจนละเอียดเนื้อเนียนนุ่ม
3.รินใส่แก้วเสิร์ฟ ตกแต่งด้วยชิ้นแตงโม สะระแหน่

อย่ารอช้าเรามาลองทำสมูธตี้แตงโมมาดื่มกันเถอะ........

ผิวสวย ได้ด้วยมะพร้าว

ผิวสวย ได้ด้วยมะพร้าว


          มะพร้าวเป็นผลไม้ที่ทั้งอร่อยทั้งน่ารับประทาน แต่สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักคงต้องบอกว่า ไม่น่ารับประทานอย่างแน่นอนเมื่อพูดถึงกะทิ แต่อันที่จริงในผลไม้ชนิดนี้มีประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ คือ น้ำมะพร้าวนั่นเอง

          ประโยชน์
  1. มีแร่ธาตุหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม วิตามินบี กรดอะมิโน กรดอินทรีย์ แคลเซียม และอื่นๆอีกมากมาย
  2. ทำให้ผิวสวยมีสุขภาพที่ดี
  3. ชะลออาการความจำเสื่อม
  4. ช่วยลดรอยแผลเป็น(ทำให้ผิวสวยขึ้นนั่นเอง)
  5. บรรเทาอาการอ่อนเพลีย
  6. ลดอาการเมาหลังจากดื่มแอลกอฮอล์
แต่ก็มีข้อห้ามของการดื่มน้ำมะพร้าวอยู่ก็คือ คนที่เป็นโรคเบาหวานนั้นไม่ควรอย่างยิ่ง

แอปเปิ้ล..........เจ้าแห่งผลไม้ลดน้ำหนัก

แอปเปิ้ล….เจ้าแห่งผลไม้ลดน้ำหนัก


          การรับประทานผลไม้จึงเป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่จะช่วยแก้ปัญหาการลดน้ำหนัก และ การมีสุขภาพที่ดีได้เพราะในผลไม้ประกอบไปด้วยเส้นใยอาหาร ที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง มีน้ำตาลธรรมชาติที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็ว และนำไปใช้งานได้ทันที นอกจากนี้ ผลไม้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆอีกมากมายสามารถช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ไม่ทรุดโทรม จึงเหมาะสำหรับสาว ๆ หรือคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักเป็นที่สุด
          แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่เรียกได้ว่าเป็น เจ้าแห่งผลไม้ลดน้ำหนัก เพราะแอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง หาทานได้ง่าย ราคาไม่แพง และที่สำคัญคือไม่ทำให้อ้วน
          จะพบว่าประโยชน์ของแอปเปิ้ลมาจาก 3 ส่วนคือ จากเส้นใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระบริเวณเปลือกแอปเปิ้ล และจากน้ำตาลฟรักโทสในเนื้อแอปเปิ้ล ดังนั้นหากต้องการดื่มน้ำแอปเปิ้ล ควรเลือกใช้วิธีการปั่นแอปเปิ้ลทั้งผล โดยไม่ต้องปอกเปลือก เพราะหากใช้วิธีคั้นน้ำ จะทำให้ได้เฉพาะน้ำตาลและสารต้านอนุมูลอิสระเพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจส่งผลทำให้อ้วนได้มากกว่าเดิม 
           สุดท้ายข่าวน้ำแอปเปิ้ลคั้นช่วยรักษาป้องกันสมองเสื่อม
           นักวิจัยมหาทยาลัยลัยแมสซาชูเสตต์แห่งสหรัฐฯ พบในการศึกษาว่า หนูที่เลี้ยงด้วยน้ำแอปเปิ้ลคั้น จะเดินในทางเดินวกวนเป็นเขาวงกตได้คล่องขึ้น และสมรรถภาพร่างกายก็ไม่ค่อยเสื่อมถอยเหมือนอย่างหนูชราตัวอื่นด้วย

ที่มา ....Slim up (เคล็ดลับสุขภาพ)

กล้วย

กล้วย
    
         
          กล้วยเป็นผลไม้ที่ใช้เป็นยาป้องกันและรักษาโรคได้หลายโรค และยังเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารอาหารครบทุกชนิดที่ร่างกายต้องการ คือมี โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน
          น้ำตาลที่เกิดขึ้นจากขบวนการเปลี่ยนแปลงของแป้ง ขณะที่กล้วยสุกมีคุณสมบัติพิเศษ คือ เมื่อกล้วยตกไปถึงลำไส้จะทำให้ลำไส้มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้แคลเซียมถูกดูดซึมง่ายและสมบูรณ์ขึ้น จึงนับว่าน้ำตาลในกล้วยมีคุณค่ากว่าน้ำตาลที่ได้จากธัญพืชอื่น ๆ
          สารอาหารโปรตีนที่มีอยู่ในกล้วยน้ำว้า เป็นโปรตีนที่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับเราอยู่หลายชนิด โดยเฉพาะมีกรดอะมิโนที่มีชื่อว่า อาร์จินิน และ ฮีสติดีน ซึ่งกรดอะมิโนทั้ง 2 ตัวนี้ เป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก
          นอกจากโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตแล้ว ในกล้วยแต่ละชนิดยังมีไขมันแม้จะอยู่ในปริมาณที่น้อยก็ตาม
          ในกล้วยวิตามินเออยู่ด้วย แม้จะไม่มากเท่าวิตามินเอที่ได้จากมะละกอหรือมะม่วงสุก แต่ก็มีวิตามินเอมากกว่าผลไม้อีกหลาย ๆ ชนิด เช่น ชมพู่ ส้มโอ น้อยหน่า เป็นต้น ในบรรดากล้วยทุกชนิด กล้วยน้ำว้าจะมีวิตามินเอมากกว่ากล้วยชนิดอื่นๆ สำหรับวิตามินตัวอื่น ทั้งวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี และไนอะซิน


ประโยชน์ทางยาของกล้วยหอม
          กล้วยหอมเป็นผลไม้ รสหวาน เย็น ไม่มีพิษ สารอาหารที่สำคัญๆ ในกล้วยหอม ได้แก่ แป้ง โปรตีน ไขมัน น้ำตาล วิตามินหลายชนิด จัดเป็นผลไม้บำรุงร่างกายดี นอกจากนี้กล้วยหอมยังสามารถใช้รักษาโรคได้หลายชนิด เช่น เป็นยาทำให้ปอดชุ่มชื่น แก้กระหาย ถอนพิษ นอกจากนี้ยังพบว่า มีฤทธิ์รักษาตามตำรับยา ดังนี้
  • รักษาความดันโลหิตสูง - เอาเปลือกกล้วยหอมสด 30-60 กรัม ต้มเอาน้ำดื่ม ถ้าเอาปลีกล้วยต้มรับประทานเป็นประจำ จะช่วยป้องกันเส้นเลือดในสมองแตกได้
  • รักษาริดสีดวงทวาร แก้ท้องผูก - รับประทานกล้วยหอมสุกตอนเช้า ขณะท้องว่างวันละ 1-2 ผล ทุกวัน
  • รักษามือเท้าแตก - เอากล้วยหอมที่สุกเต็มที่ เจาะรูเล็กๆ ที่ปลายข้างหนึ่ง แล้วบีบเอากล้วยออกมาทาที่เท้าแตก ทิ้งไว้หลายชั่วโมง จึงล้างออก จะรู้สึกดีขึ้น

สัปปะรด

สัปปะรด 

คุณที่ชอบกินหรือรับประทานผลไม้นั้นรู้หรือไม่ว่า ประโยชน์นั้นมีมากมาย
          สัปปะรดเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยรสหวานอมเปรี้ยว แถมสัปปะรดยังสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้หลายอย่างอีกด้วย
          สัปปะรดมีประโยชน์คือ สามารถช่วยย่อยอาหารได้ สังเกตได้จากการที่เรารับประทานอาหารคาวเสร็จหลังจากนั้นลองกินสัปปะรดดู จะรู้สึกว่า ไม่อึดอัดแน่นท้อง เหตุผลนี้เองที่ผลไม้ชนิดนี้เป็นผลไม้ที่คนนิยมกินหลังอาหาร

          สัปปะรดยังมีประโยชน์อีก คือทำให้เกิดภูมิต้านทานโรค ส่งเสริมสุขภาพ ลดความดัน ป้องกันหวัด ป้องกันตะคริว และยังมีการต้านการอักเสบต่างๆได้อีกด้วย
          หากคุณกินสับปะรด หลังอาหาร คุณจะรู้สึกได้ว่า เบาสบายท้องและไม่อึดอัด เพราะผลไม้ชนิดนี้มีความสามารถในการช่วยย่อย โดยเฉพาะในสารอาหารประเภทโปรตีน จึงเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่ใช้สับปะรดในการหมักเนื้อสัตว์ต่างๆ ให้นุ่มขึ้นเช่น การหมักเนื้อสัตว์เพื่อทำหมูย่างเกาหลี เป็นต้น และยังรวมไปถึงอุดมไปด้วยวิตามินซีสูงซึ่งช่วยเสริมสุขภาพ และภูมิต้านทานโรคได้ดีขึ้น


          หลายคนที่ไม่รู้ว่า กินสับปะรดบ่อยๆ แล้วจะทำให้สุขภาพดี ช่วยในเรื่องการเป็นหวัด และในสับปะรดยังมีโพแทสเซียมสูงที่ช่วยป้องกันการเป็นตะคริวและลดความดันได้ นอกจากนี้สับปะรดยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้เป็นอย่างดี ส่วนปริมาณที่เหมาะสม ในการบริโภค คือ 100 กรัมต่อวัน และควรกินสับปะรดสดๆ โดยไม่ผ่านการประกอบอาหารที่ใช้ความร้อนเพื่อป้องกันการสูญเสียวิตามินต่างๆ